วิธีแก้เครียด สำหรับคนทำงาน

โรคเครียดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากมลภาวะ ความเครียดจากเรื่องครอบครัว บางคนที่มีแฟนแล้วส่วนใหญ่ความเครียดก็จะเกิดมาจากเรื่องแฟน แต่ก็มีคนบางจำพวกที่มีนิสัยชอบคิดมากเป็นทุนเกดิมอยู่แล้วคนเหล่านี้จะมีความเครียดมากกว่าคนปรกติอื่นๆเป็นพิเศษเพราะว่าจะคิดเรื่องทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต ยิ่งความเครียดสำหรับคนที่งานด้วยแล้ว แทบจะเครียดทั้งวันยกเว้นตอนนอนหลับเลยทีเดียว(ถ้าหลับแล้วฝันว่าเครียดก็ถือว่าซวยมาก)

วิธีแก้ไขโรคเครียดที่ดีที่สุดนั้นก็คือการเข้าวัดฟังเทศน์ นั่งสมาธิ หรือไม่ก็หาเวลาว่างบวชไปเลยเพียงเท่านี้โรคเครียดที่คุณมีอยู่ในใจก็จะบรรเทาเบาบางลงไปได้เยอะเลยทีเดียวเพราะการเข้าวัด ปฎิบัติตนในศีล จะทำให้เราเข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น เราจะปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะการปลงในสิ่งที่ไม่ดีจะทำให้เราคลายความเครียดได้มาก

วิธีการแก้ไขในเรื่องของโรคเครียดนั้นก็มีวิธีอยู่มากมายนอกจากการเข้าวัดแล้วเรายังสามารถขจัดความเครียดเหล่านี้โดยการออกกำลังกาย ทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ให้มากๆเพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณคลายจากความเครียดลงได้ และคุณไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องของการทานผักและผลไม้เยอะแล้วอ้วน เพราะอาหารเหล่านี้มีแต่สารอาหารที่เข้าไปบำรุงร่างกายเท่านั้น โดยไม่ทำให้อ้วน ที่สำคัญ การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ความเครียดลดลงได้ด้วยนะครับ

เดินขึ้น-ลง บันได ได้อะไรมากกว่าที่คิด

สวัสดีครับคนรักสุขภาพทุกท่าน วันนี้เราจะแนะนำวิธีสร้างสุขภาพที่ดี สามารถทำได้ง่ายๆ และใช้เวลาไม่มากนะครับ
ตามปกติแล้ว หนุ่มๆสาวๆที่ทำงานบริษัทมักจะไม่มีเวลาออกกำลังกาย อาจจะด้วยงานที่กินเวลาการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการเดินทางที่กินระยะเวลานาน ทำให้แม้แต่เวลานอนของท่านก็อาจจะไม่เพียงพอ แต่วันนี้ ผมมีวิธีออกกำลังกายง่ายๆที่บางคนอาจคิดไม่ถึง หรือบางคนอาจจะทำอยู่แล้วทุกวัน นั่นก็คือ.....การเดินขึ้นบันได

การเดินขึ้นบันได เรื่องง่ายๆ ที่ได้ผล

การเดินขึ้นบันได เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ไม่มีเวลา แต่ต้องทำงานบนออฟฟิตที่อยู่บนตึกสูง กิจกรรมการเดินขึ้นบันไดนั้น สามารถทำได้ทุกเวลาเลยนะครับ แต่ไม่ใช่ว่าคุณต้องเดินขึ้นบันไดตลอด ทำงานชั้น 10 ก็ต้องขึ้นบันได ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ การเข้าห้องน้ำ อาจจะไปเข้าห้องน้ำชั้นล่าง หรือชั้นบน และให้ท่านเดินขึ้นบันไดไป หรือก่อนเข้าทำงาน ให้ขึ้นลิฟ และกดตัวเลขก่อนถึงออฟฟิตท่านสักชั้น และเดินขึ้นบันไดอีกชั้น แรกๆอาจจะเหนื่อย แต่เมื่อชินแล้ว อาจเพิ่มเป็น 2,3,4 ชั้นก็ได้ครับ แค่นี้ง่ายๆ เราก็ได้ออกกำลังกายในเวลางานแล้วครับ

วิธีการเดินขึ้นบันไดที่ถูกต้อง 

1. ท่าทางในการเดิน ควรเดินในลักษณะหลังและคอตรง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้าหรือข้างหลัง ผ่อนคลายส่วนของหัวไหล่ ไม่เดินยกไหล่
2. ควรเดินวางเท้าเต็มฝ่าเท้า และไม่กระแทก ซึ่งการกระแทกเท้าอาจทำให้ปวดเท้าหรือข้อเข่าได้
3. สายตาเหลือบมองต่ำที่ขั้นบันได เพื่อป้องกันการหกล้ม
4. ก้าวด้วยจังหวะที่คงที่ สม่ำเสมอ ไม่ควรเดินเร็วเกินไป เพราะจะเป็นการทำลายข้อเข่า
5. เมื่อท่านมีอาการดังต่อไปนี้ คือ เจ็บหน้าอก หายใจไม่คล่อง วิงเวียน ปวดตามข้อเข่าหรือข้อเท้า ควรหยุดการออกกำลังกายและปรึกษาแพทย์
6. สำหรับท่านที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ควรเริ่มขึ้นบันไดเพียง 1 ชั้นก่อน สลับกับเดินพื้นราบ ขณะเดินควรเริ่มด้วยการเกาะราวบันได เมื่อท่านเดินได้คล่องจึงปล่อยมือจากราวได้ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ จึงค่อยๆเพิ่มจำนวนชั้นอย่างช้าๆ คือ 1-2 ชั้นต่อสัปดาห์ 

ประโยชน์จากการเดินขึ้นบันได

1. สามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิต โดยเฉพาะในที่ทำงาน 
2. เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค เพิ่มสมรรถภาพความแข็งแรงและทนทานของระบบหัวใจ หลอดเลือด และปอด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เส้นเลือดหัวใจตีบ และโรคเบาหวาน 
3. เพิ่มความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อ ทำให้ลดอุบัติการณ์การพลัดตกหกล้ม 
4. เป็นการออกกำลังกายที่เก็บสะสมได้ นั่นหมายถึงท่านทะยอยทำทีละนิด ทีละหน่อยจนเท่ากับการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน
5. ขึ้นบันไดได้ผลกว่าลงบันได แต่ไม่ได้หมายความว่าการลงบันไดไม่เป็นประโยชน์ เพราะการขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8 – 11 กิโลแคลอรีต่อนาที ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได
6. มีรายงานว่า การขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้นสามารถลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมในเวลา 1 ปี
7. มีหลักฐานยืนยันว่า การขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน  แต่ควรออกกำลังกายด้วยวิธีนี้อย่างสม่ำเสมอ
8. มีหลักฐานยืนยันว่า สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย และเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีได้ 
9. ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องการอุปกรณ์พิเศษใดๆ 
10. ข้อสุดท้ายเป็นผลที่ได้กับบริษัท คือการประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน

สรุปสุดท้าย การเดินขึ้นบันได จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแน่นอน แต่ไม่ใช่เดินขึ้นแค่วันละรอบ ควรทำสม่ำเสมอและควรทำทุกครั้งที่มีโอกาส ผลที่ออกมาจะดีมาก-น้อยเพียงใดอยู่ที่ท่านจะสามารถเดินขึ้นบันไดได้มากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน อีกทั้งการเดินขึ้นบันไดยังสามารถทำได้เพียงแค่ลดการใช้ลิฟ และหันมาใช้บันไดแทน

มาว่ายน้ำเพื่อสุขภาพที่ดีกันเถอะ

สวัสดีครับสาวๆทั้งหลายและหนุ่มทั้งหลายที่รักสุขภาพ แน่นอนครับว่าวันนี้เราก็จะมาพูดถึงเรื่องของการดูแลสุขภาพกันอีกเช่นเคย วันนี้เราจะพูดถึงการออกกำลังกายที่ไม่ร้อน ไม่รู้สึกเหนียวตัว แต่เมื่อออกกำลังด้วยวิธีนี้เสร็จคุณๆทั้งหลายจะรู้สึกเพลียจากการออกกำลังกายอย่างมาก เรียกได้ว่ามันสามารถเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ทราบกันหรือไม่ว่า การว่ายน้ำเพื่อดูแลสุขภาพนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในกลุ่มหนุ่มสาวยุคใหม่กันเลยทีเดียว ไม่ใช่เฉพาะหนุ่มสาวเท่านั้นแต่รวมไปถึงพ่อแม่สมัยใหม่ ที่ต้องการให้ลูกว่ายน้ำเป็นตั้งแต่อายุยังน้อย  เพราะว่าอย่างน้อยการว่ายน้ำเป็นนั้นก็ถือว่ามีข้อดี และประโยชน์แก่ตัวเองหลายๆอย่าง

ประโยชน์ของการว่ายน้ำ

1. ช่วยให้หัวใจและปอดแข็งแรง เพราะการว่ายน้ำจะเกิดการหายใจเป็นจังหวะ หัวใจและปอดต้องทำงานร่วมกันในการส่งเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้องส่วนต่างๆของร่างกาย การว่ายน้ำด้วยความเร็วคงที่เป็นเวลานานๆยิ่งช่วยให้หัวใจกับปอดแข็งแรงขึ้น สามารถทนต่อการเหนื่อยได้มากขึ้น
2. เผาผลาญแคลอรี่ : 500 - 800 แคลอรี่/ชั่วโมง การว่ายน้ำเป็นการเผาผลาญแคลอรี่ชั้นดี แต่ต้องระวังเรื่องอาหารที่ทานหลังจากว่ายน้ำด้วย เพราะท่านจะหิวและทานทุกอย่างที่ขวางหน้าไปแบบไม่รู้ตัว
3. กระชับกล้ามเนื้อ แน่นอนว่าการว่ายน้ำนั่นจะเป็นการกระชับกล้ามเนื้อที่ดี เพราะเราจะได้ใช้กล้ามเนื้อในร่างการเกือบทุกส่วนในการว่ายน้ำ ทั้งแขน ขา หน้าท้อง คอ หน้าอก สำหรับสาวๆ การว่ายน้ำช่วยกระชับกล้ามเนื้อได้ดีทีเดียว
4. ถนอมข้อต่อ การว่ายน้ำจะถนอมข้อต่อเนื่องจากเราไม่ได้มีการลงน้ำหนักที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเหมือนการวิ่ง การกระโดดเชือก ข้อต่อต่างๆจึงไม่ได้รับการกระทบกระเทือนที่หนักเกินไป
5. ไล่ความเครียด การอยู่กับน้ำเย็นๆ และการไม่ต้องรองรับน้ำหนัก หรือการปล่อยตัวให้ลอยอยู่ในสระว่ายน้ำนั่นเป็นการลดความเครียดได้ดีอย่างหนึ่ง ถ้าหากใครกำลังเครียดลองไปว่ายน้ำดูนะครับ อาจช่วยให้ลดความเครียดลงได้บ้าง
6. ได้พบปะสังสรรค์ กลุ่มนี้สังเกตุได้จากสาวๆที่ชอบนัดเพื่อนๆไปว่ายน้ำกัน ไม่มีที่ใดเหมาะแก่การพักผ่อนและออกกำลังกายไปกว่าการว่ายน้ำ คงไม่มีใครชวนเพื่อนไปวิ่งเป็นกลุ่มแล้ววิ่งไปคุยไปหรอกใช่มั้ยครับ

แน่นอนว่าการว่ายน้ำนั้นจะต้องเกิดจากการฝึกฝน อาจจะยากมากๆสำหรับใครที่ว่ายไม่เป็น แต่ว่าถ้าคุณนั้นว่ายเป็นแล้วละก็ขอบอกเลยละว่าทั้งสนุกทั้งเหนื่อยแต่แถมด้วยการมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพที่ดีครับผม

มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในสภาวะอากาศแปรปรวนกันเถอะ

สวัสดีครับสำหรับวันนี้เราขอแนะนำเทคนิคการดูแลร่างกายสำหรับใครที่ เป็นโรคบ่อยๆเจ็บออดๆแอดๆ แน่นอนครับว่าช่วงนี้อากาศค่อนข้างแปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนอย่างแถวบ้านผม ตอนเช้าหนาว กลางวันร้อน ตกเย็นฝนตก แล้วตกช่วงที่เลิกงานพอดี ใครไปทำงานก็ต้องโดนฝนกันบ้างแหละครับ ดังนั้น เราก็ควรจะมีร่างกายที่แข็งแรงหรือว่าดูแลร่างกายตัวเองให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยได้ง่าย ด้วยการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายด้วยการออกกำลังกาย
สำหรับการออกกำลังกายนั้นก็ไม่ยากครับ แค่การเดินเร็ว(เดินซอยเท้าให้ไวขึ้น ช่วยให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น) หรือจะเป็นการวิ่ง หาสวนสาธาณะวิวดีๆวิ่ง สูดอากาศสดชื่นๆ แนะนำเป็นเวลาเช้าๆนะครับ จะรู้สึกสดชื่นมากเลย และควรออกกำลังกายเป็นประจำ ที่สำคัญอย่าลืมทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เพราะนอกจากเราจะออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีแล้ว เราควรทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยเสริมการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย
สำหรับสาวๆท่านใด หรือหนุ่มๆคนไหนที่อยากออกกำลังกาย แต่ไม่มีเวลา ประมาณว่าเวลาของท่านเป็ฯเงินเป็นทอง ก็ขอแนะนำนะครับ การออกกำลังการด้วยกิจวัตรประจำวัน ก็คือท่านใช้กิจวัตรประจำวันในการออกกำลังกายแต่ละวันนั่นเองครับ